ผมมันเยิ้มเป็นกิจวัตร เลยต้องอัด Dry Shampoo ไว้คอยกู้หน้าเป็นประจำ..
ใครเป็นแบบนี้อยู่ ต้องมาอ่านทิปส์ดีๆ จากเราแล้วค่ะ เพราะถึงแม้ว่า Dry Shampoo จะช่วยให้ผมหายมัน เฟรชขึ้นได้จริง แต่ก็ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุอยู่ดี ดีไม่ดีอาจจะเป็นสาเหตุให้ผมมันซ้ำซาก เพราะล้างออกไม่หมดจนเกิดเป็นสิ่งตกค้างอีกด้วยนะ
มิลบอนเลยมีวิธีจัดการผมมัน แบบไม่ง้อ Dry Shampoo มาฝากกัน จะได้มีเก็บพื้นที่กระเป๋าไว้ใส่เมคอัพดีกว่าเนอะ จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่า!
สระผมอย่างเดียวไม่พอ ต้องเน้นที่หนังศีรษะด้วย
ขึ้นชื่อว่า "สระผม" แล้ว หลายคนอาจจะสระที่ผมอย่างเดียวจริงๆ จนลืมไปว่า "หนังศีรษะ" ก็ต้องการทำความสะอาดด้วย ซึ่งการสระผมที่ดีนั้น ควรตีฟองแชมพูที่มือก่อน แล้วค่อยลูบที่หนังศีรษะจนถึงเส้นผม โดยเน้นนวดที่หนังศีรษะเพื่อให้สิ่งสกปรกหลุดออกให้หมด แล้วหลังจากนั้นค่อยเน้นที่เส้นผมเป็นลำดับต่อมา เพราะถ้าเราบีบแชมพูมาแล้วโปะไปที่เส้นผมเลย ก็จะทำให้แชมพูทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และทำความสะอาดไปไม่ถึงหนังศีรษะอีกด้วย
เป่าผมให้แห้งเสมอ
มี "ความชื้น" ที่ไหน ย่อมมี "ความมัน" ที่นั่น เพราะฉะนั้นสาวๆ คนไหนที่ยังชอบปล่อยให้ผมแห้งเอง หรือชอบไดร์ผมแค่พอเป็นพิธี แต่ข้างในผมยังเปียกชื้นอยู่ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมด่วนเลยนะคะ เพราะนอกจากผมจะมันง่ายแล้ว ยังทำให้ศีรษะของเรากลายเป็นรังรักของเชื้อโรคต่างๆ จนเกิดเป็นรังแค ลอก หรือหนังศีรษะอักเสบได้เลยนะ
ใส่ Leave-in treatment แค่ปลายผมเท่านั้น
เชื่อว่าหลายคนต้องอยากให้ผมสวยตั้งแต่โคนจรดปลาย ก็เลยโบกออยล์ไปทั้งศีรษะซะอย่างนั้นเลย ตอนเช้าอาจจะยังผมสวยดูเงางามอยู่ แต่พอเวลาผ่านไป เหงื่อที่ออกมาระหว่างวันก็จะผสมจนกลายเป็นความมันในที่สุด เพราะ Leave-in treatment เนี่ยเค้าทำมาไว้เพื่อดูแลเส้นผมเท่านั้น เราไม่จำเป็นต้องทาไปจนถึงหนังศีรษะ ถ้าใครทำแบบนี้อยู่ขอให้เลิกดีกว่านะคะ เพราะถึงจะสระผมบ่อยแค่ไหน ผมก็มันอยู่ดี
พยายามอย่าหวีผมหรือจับผมบ่อยๆ
การหวีผมหรือสางผมบ่อยๆ ทำให้ผมสวย ไม่พันกันก็จริง แต่ถ้าบ่อยจนเกินไป ก็จะกลายเป็นการกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น และใครที่่มือว่างไม่ได้เลย ต้องคอยจับผมอยู่ตลอด ถ้าไม่อยากให้สิ่งสกปรกหรือน้ำมันที่ "มือ" ของเราย้ายไปอยู่ที่ศีรษะ ก็ต้องหักอกหักใจ หยุดพฤติกรรมนี้ด่วนเลยค่ะ
ดีท็อกซ์หนังศีรษะสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
สำหรับใครที่ผมมันเรื้อรัง ทำยังไงก็ไม่หาย แม้ว่าจะสระผมบ่อยก็แล้ว ผมก็ยังคงมันเยิ้มอยู่แบบนั้น นอกจากจะมีสาเหตุมาจากไขมันอุดตันแล้ว การทำสีหรือทำเคมีบ่อยๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเช่นกันนะคะ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าหนังศีรษะเรายังสารเคมีตกค้างอยู่ การทำดีท็อกซ์หนังศีรษะจึงเป็นวิธีที่แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นตอ ที่สามารถกำจัดไขมันและสารเคมีตกค้างออกได้ดีกว่าการสระผมปกติอีกด้วย
(milbon CARBONATED SHAMPOO 4.9 150 g 1,200 บาท)
โซดาแชมพูที่มีความเข้มข้นพิเศษ สามารถขจัดไขมันอุดตันและสารเคมีตกค้างบนหนังศีรษะได้อย่างหมดจด ด้วยความที่ฟองมีขนาดเล็กละเอียดราวกับวิปครีม จึงทำให้สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้ลึกถึงแกนผม พร้อมรักษาสีผมให้สวยยาวนานขึ้น พร้อมค่า pH 4.9 ที่มีคุณสมบัติอ่อนๆ ช่วยปรับสมดุลให้หนังศีรษะและเส้นผมไม่ให้เกิดอาการแห้ง ลอก คัน รังแค และมันง่าย