ใครมีแพลนสลัดลุคทรงผมเรียบตรง แล้วหันมาเปลี่ยนเป็นสาวผมลอนละมุนนี ด้วยการ “ ดัดดิจิตอล ” ล่ะก็ ก่อนจะไปร้านซาลอน เรามาศึกษากันสักนิดดีกว่า ว่าต้องอธิบายช่างยังไงถึงจะได้ทรงสวยถูกใจ ตามอิมเมจที่เราต้องการ 

จริงอยู่ที่ช่างทำผมทุกคนต่างก็มีความสามารถพอที่จะทำลอนผมสวยๆ ได้ 
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราบอกความต้องการผิดหรือสื่อสารคลาดเคลื่อนกันไปนิดเดียว ก็อาจทำให้ฝันสลายกลายเป็นได้ทรงที่ไม่ต้องการ  เรามาดูเคล็ดลับในการคุยกับช่างและสิ่งที่ควรรู้ก่อนจะไปทำผมกันดีกว่าค่ะ จะได้ไม่พลาดและไม่ต้องนอยด์ออกจากร้านเพราะเซ็งกับทรงผมใหม่กันเนอะ

รู้จักผมดัดดิจิตอลและลอนผมสไตล์ต่างๆ
การดัดดิจิตอล คือการดัดผมโดยการใช้ความร้อนเพื่อทำให้เส้นผมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไปตามรูปแบบแกนที่เราต้องการ  ผลลัพธ์ที่ได้คือลอนที่ดูสม่ำเสมอเป็นธรรมชาติ และอยู่ตัวได้นานกว่าการดัดเย็น แต่เราจะไม่นิยมดัดดิจิตอลตั้งแต่โคนผม เพราะเป็นการใช้ความร้อน ต่างจากการดัดเย็นที่สามารถดัดได้ตั้งแต่โคน ซึ่งในวงการช่างผม จะมีศัพท์เรียกลอนอยู่  3 สไตล์ นั่นก็คือสไตล์ J Curl, C Curl และ S Curl 

       
J CURL คือ การดัดลอนปลายคล้ายๆ ตัว J เรียกได้ว่าเป็นลอนที่เบาบางที่สุดในบรรดาลอน 3 สไตล์ เหมาะกับการเอาไว้จัดระเบียบทรงผมที่ไม่เป็นทรงให้เข้ารูปเข้ารอย  แต่ก็ช่วยสร้างลุคให้สวยหวานน่ารัก ไม่แพ้กับลอนสไตล์อื่นๆ เลยนะ

             
C Curl คือ ลอนผมที่มีลอนโค้งมนเฉพาะตรงปลาย คล้ายๆตัว C หรือบางคนเรียกกันว่า “ดัดงุ้มปลาย” นั่นเอง ซึ่งเป็นทรงที่ฮิตกันมากในหมู่สาวๆ ที่มีความยาวผมระดับประบ่า หรือสาวผมยาวที่ต้องการลุคผมหยักศกเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องการการดูแลมากมาย เพราะเป็นทรงที่เซ็ตง่าย และยังได้ลุคใสๆ สไตล์สาวเกาหลีอีกด้วย 

S Curl  คือ ลอนที่เพิ่มความเป็นแฟชั่นขึ้นมาได้อีก เพราะเป็นสไตล์ที่เห็นลอนคลื่นชัดเจนเหมือนตัว S มิลบอนขอบอกเลยว่าผมลอนทรง S Curl นี้เป็นทรงที่สาวญี่ปุ่นกำลังนิยมกันสุดๆ เพราะดูมีสไตล์และยังได้อวดสีผมพร้อมไฮไลท์ที่ทำมาให้ดูสวยปังมากขึ้น และยังช่วยอำพรางความบางของเส้นผม ให้ดูหนานุ่มและมีวอลลุ่มขึ้นด้วยล่ะ

เลือกสไตล์ที่ชอบและบอกความต้องการให้ชัดเจน 
รู้จักสไตล์ของลอนผมมาบ้างแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องมาถามใจตัวเอง ว่าเราชอบลอนแบบไหน ความยาวเท่าไหร่ โดยหลีกเลี่ยงการใช้คำคลุมเครือกับช่างผม เช่น “ยังไงก็ได้” , “เอาลอนโค้งๆ”, “ความยาวกลางๆ ” โดยเฉพาะเรื่องความยาวของทรงผมที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอย่าลืมว่าการดัดผมจะทำให้ผมดูสั้นขึ้นไปอีกเพราะความโค้งของลอนผม และในบางเคสช่างจะมีการเล็มผมออกบ้างก่อนการดัด เพื่อให้ได้ทรงผมที่เพอร์เฟคที่สุดกับลอนของเรา ทางที่ดีสาวๆ ควรกำหนดไปเลย ว่าเราอยากได้ Finished Look ที่ความยาวเท่านั้นเท่านี้ เพื่อที่ช่างจะได้กะระยะได้ถูกต้อง

เตรียมรูปสไตล์ทรงผมที่ต้องการให้ช่างดู
ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะสื่อสารกับช่างได้ดีพอ ต้องตอกย้ำความต้องการให้เคลียร์ขึ้นอีกนิด ด้วยการหาตัวอย่างหรือ Reference ทรงผมที่อยากได้มาประกอบกัน ช่างผมจะได้เห็นภาพและทำออกมาได้ตรงใจเราได้ง่ายขึ้น

เซ็ตผมให้เป็น
หลังจากได้ทรงผมดัดออกมาสวยถูกใจแล้ว อย่าลืมจดจำวิธีที่ช่างเซ็ตผมให้เราก่อนจบงาน หรือถ้ายังเซ็ตผมไม่เป็น ก็ให้ช่างช่วยสอนก่อนกลับบ้านก็ได้นะคะ เพราะนอกจากผมจะสวยได้ด้วยมือเราทุกวันแล้ว การเซ็ตผมอยู่เสมอก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยพยุงลอนผมให้คงสวยยาวนาน ช่วงแรกๆ อาจจะยากหน่อย แต่ถ้าเราฝึกบ่อยๆ สกิลก็จะอัพขึ้นมาเอง  

อีกสิ่งหนึ่งที่มิลบอนอยากให้สาวๆ ใส่ใจไม่แพ้กับสไตล์ทรงผม นั่นก็คือ การเลือกร้านซาลอนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดีมีคุณภาพ ซึ่งอย่างน้อยผลิตภัณฑ์นั้นๆ ควรมีการจดแจ้ง อย. อย่างถูกต้อง เพราะมีสาวๆ หลายคนเลยที่เข้ามาปรึกษามิลบอน เพราะมีประสบการณ์ช้ำใจ จากการใช้น้ำยาดัดที่ไม่มีคุณภาพ จนผมเสีย ผมช็อต บางคนก็มีอาการแพ้อย่างรุนแรง ซึ่งมันอันตรายมากๆ และไม่คุ้มกันเลยใช่มั้ยคะ?

อยากมั่นใจว่าจะได้กลับบ้านพร้อมลอนผมสวยถูกใจและปลอดภัย อย่าลืมมองหาร้านซาลอนที่ใช้ Liscio Atenje จากมิลบอน เพราะผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นถูกสร้างมาด้วยความใส่ใจตามมาตรฐานแบรนด์ญี่ปุ่น พร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงที่คิดค้นมาอย่างดี อย่างเทคโนโลยี Uni-Route ที่ช่วยให้น้ำยาทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องทิ้งผมไว้กับน้ำยานานๆ พร้อมปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งเสียจากการโดนความร้อน เพื่อให้ลอนผมของสาวๆ นุ่มสลวย เงางาม และสุขภาพดี