สาวสายแฮร์บิวตี้ห้ามพลาด!! เพราะเราจะมาสรุปผลิตภัณฑ์เส้นผมจากแบรนด์มิลบอนที่ขายดีที่สุดในปี 2018 กัน การันตีได้จากแฮร์สไตลิสต์ที่ต่างเทใจให้จนยอดขายพุ่งกระฉูด

มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าตัวไหนดี ตัวไหนเด็ด จะได้เตรียมลิสต์ไปช้อปกันที่ซาลอนใกล้บ้านเพื่อเป็นของขวัญให้กับเส้นผมของคุณในปี 2019 นี้

1.ORDEVE

ขอจุดพลุดังๆ ให้กับ ORDEVE ( ออร์ดีฟ ) ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมสำหรับช่างผมมืออาชีพจากแบรนด์มิลบอน ที่เป็น Top Seller อย่างต่อเนื่องจนมาถึงปีนี้ ด้วยความที่มีสีให้เลือกหลากหลายและยังมอบสีผมประกายหม่นแอช ที่เป็นแอชจริงๆ ยิ่งเวลาเฝด สีผมก็ยังดูนุ่มนวล “ไม่เป็นสีสนิม” เพราะเทคโนโลยี  Intercellular จากมิลบอน ที่ช่วยผลักดันให้เม็ดสีเข้าไปในเส้นผมได้ลึกแบบเส้นต่อเส้น ทำให้ลดการใช้แอมโมเนียลง จึงไม่ทำให้เกิดกลิ่นฉุนหรือเส้นผมเสียหายอย่างที่เคย และยังมีส่วนผสมของทรีตเมนต์ที่บำรุงล้ำลึก สาวๆ จึงสัมผัสได้ว่าเส้นผมยังคงนุ่มสลวย หวีง่าย ไม่แห้งกรอบ ด้วยเหตุผลเหล่านี้  Ordeve  จึงครองใจสาวๆ ทั่วญี่ปุ่นรวมถึงแฮร์สไตลิสต์ทั่วเอเชีย และยังใช้งานง่าย แถมได้สีดังใจต้องการ 

ซึ่งสีที่ขายดีที่สุดในปีนี้ ต้องยกให้คอลเลคชั่น Mode Line สีผมโทนน้ำเงินครามและเขียวน้ำทะเล จากฤดูกาล Autumn-Winter 2017 เพราะเป็นสีแอชโทนเย็น เข้มหม่นแบบนวลๆ ช่วยลดเฉดสีแดงส้มในเส้นผมได้เนียนสนิท  มอบลุคสวยซ่อนเท่ให้หญิงสาวได้อย่างเต็มที่ จึงถูกใจสาวไทยตั้งแต่ปีที่แล้วและยังคงฮิตมาจนถึงปีนี้นั่นเอง

 

2.Liscio Atenje

ตามมาติดๆ เป็นอันดับ 2 กับผลิตภัณฑ์น้ำยาดัดยืดดิจิตอลสำหรับช่างผมมืออาชีพที่ร้านซาลอนชั้นนำเลือกใช้ และยังมียอดขายสูงเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นอีกด้วย จุดเด่นของน้ำยาที่ทำงานได้ดีทั้งการดัดและการยืด มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูง Uni-Route ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปทำปฏิกิริยาได้รวดเร็ว จึงช่วยประหยัดเวลาช่างผมและลูกค้า และยังมีทรีตเมนต์ในตัวที่ช่วยถนอมเส้นผมของลูกค้าไม่ให้เสียหาย

ผลลัพธ์ของการยืดผมจึงออกมาเรียบตรงสลวย มีน้ำหนัก ชุ่มชื้น เงางามจรดปลาย และในส่วนของการดัดดิจิตอลนั้น ก็มอบลอนที่ชัดเจน นุ่มนวล สุขภาพดี เป็นธรรมชาติ 

3.ORDEVE Addicthy

มาแรงมากๆ กับสีผมสวยดุจประกายอัญมณี อย่างคอลเลคชั่น Ordeve Addicthy ที่นับว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่มิลบอนได้ออกคอลเลคชั่นสี ที่ “ไร้เม็ดสีน้ำตาลเจือปน” จึงได้ผลลัพธ์สีผมที่มีประกายชัดเจนแบบสียุโรป แต่ยังคงเอกลักษณ์ความแอชละมุนโปร่งใสตามสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว เหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการความยูนีคที่ไม่เหมือนใคร 

ซึ่งสีที่มาวินจากคอลเลคชั่นนี้ คือสี Sapphire ( แซฟไฟน์ ) สีผมโทนน้ำเงินหม่นที่หรูหรา คลาสสิค เพราะเป็นสีที่สื่อถึงความสุขุม เท่แบบมีชั้นเชิง และยังกลบพื้นผมสีแดงได้เนียนที่สุด จึงเป็นสีที่ช่างผมเลือกใช้และถูกใจสาวไทยที่นิยมสีสดชัดนั่นเอง 

4.MILBON REPAIR

นับว่าเป็น Hair care น้องใหม่ที่มาแรงมากกกเลยทีเดียว หลังจากที่แบรนด์ GLOBAL MILBON ในไทยเพิ่งเปิดตัวครบไลน์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ทำยอดขายถล่มทลายจนมาแรงแซงเป็นอันดับที่ 4 ทั้ง Home Care และ Salon Care

ด้วยความที่สาวไทยมีแนวโน้มในการทำเคมีกับเส้นผมสูงขึ้นเรื่อยๆ ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเข้าซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหายจากการทำเคมีได้อย่างตรงจุดอย่าง MILBON REPAIR จึงถูกใจสาวๆทุกคนที่ได้ลอง ด้วยนวัตกรรมที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของมิลบอน ทั้ง SSVR-Silk ที่เข้าไปเติมเต็มโพรงอากาศในเส้นผม และ CMADK เคราตินที่เข้าไปได้ลึกระดับโมเลกุล จึงทำให้ MILBON REPAIR ก้าวขึ้นมาแซงแฮร์แคร์รุ่นพี่ไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย 

ใครที่กำลังกังวลเกี่ยวกับผมแห้งเสียจากการการฟอกและการทำเคมี ควรมี MILBON Repair ไว้เป็น Wish list นะคะ รับรองว่าเส้นผมของคุณจะแข็งแรง สุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน

5.PLARMIA Clear Spa Foam

จากรีวิวอันล้นหลามในโลกออนไลน์ ทั้งบล็อกเกอร์ เว็บไซต์ชื่อดัง ต่างก็พูดถึง PLARMIA Clear Spa Foam ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ #แก้หนังศีรษะมัน ได้เริ่ดที่สุด ด้วยเนื้อฟองเนียนนุ่มละเอียดจากกรดคาร์บอนิกเข้มข้นกว่า 4,400 ppm.   จึงเข้าไปขจัดไขมันที่อุดตันบนหนังศีรษะได้อย่างหมดจด ทิ้งไว้แต่ความเย็นสบาย สดชื่น หนังศีรษะและเส้นผมสะอาดขึ้นจนรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และยังค่อยๆ ลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ดีอีกด้วย เลยทำให้ Plarmia Clear Spa Foam ยังติดโพล Best Seller ทุกๆ ปีมา 6 ปีซ้อนแล้วน้า!!!

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับโพลในปีนี้ มิลบอนเชื่อว่าแฟนๆมิลบอนหลายคนพอจะเดาออกกันบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนใครที่ยังไม่เคยใช้เลย แต่เข้าร้านทำผมเป็นประจำ ก็อาจจะรู้สึกคุ้นตาอยู่บ้าง เราขอเชียร์ขาดใจว่าให้ลองใช้ดูสักครั้ง แล้วคุณจะตกหลุมรักเส้นผมมากกว่าที่เคยอย่างแน่นอน